ขับเคลื่อนโดย Blogger.
Tag: , , ,

ความประเสริฐของคืนนิสฟูซ๊ะอฺบาน


 

 
 
 

ความประเสริฐของคืนนิสฟูซ๊ะอฺบาน 


 
จากอัลกุรอ่าน ความว่า "ขอยืนยันด้วยฮามีม และคัมภีร์ที่ชัดเจนคืออัลกุรอ่านว่า แท้จริงเราได้ประทานคัมภีร์นั้นลงมา ในคืนอันเป็นศิริมงคล คือ คืนนิสฟูซ๊ะอฺบาน หรือ คืนลัยละตุ้ลกอดัร ซึ่งได้ประทานจากเลาหุ้ลม๊ะห์ฟูซมายังฟ้าชั้นที่หนึ่ง เป็นการประทานลงมาทั้งฉบับ และได้ค่อย ๆ ทยอยประทานมายังท่านศาสดามูฮัมมัดในช่วงเวลายี่สิบสามปีโดยประมาณ" 

การกล่าวที่ว่า อัลกุรอ่านได้ประทานลงมาในเดือนอันเป็นศิริมงคลนั้น เพราะ อัลกุรอ่าน เป็นคำสอนที่ให้ประโยชน์ทั้งดุนยาและอาคีเราะฮ์ และในคืนที่อัลกุรอ่านได้ถูกประทานลงมานั้น มวลมลาอีกะฮ์ได้ลงมายังผืนแผ่นดิน นำเราะห์มัตมาสู่ชาวโลก และยังเป็นคืนที่อัลลอฮ์ทรงโปรด 
        1 ตอบรับคำขอของผู้ที่ขอ
        2 เป็นเนี๊ยะมัต หรือประทานเนี๊ยะมัตตามความเหมาะสม
        3 โดยจำแนกระหว่างความเหมือนที่แตกต่าง หรือความแตกต่างที่เหมือนกัน 
 
และเรา (อัลลอฮ์) ได้แนะนำตักเตือนและจำแนกทุกสิ่งทุกอย่างที่มีความกำกวมด้วยวิทยปัญญา ด้วยความปรีชาญานอีกด้วย อันใดที่จะเกิดขึ้นในระหว่างปีต่อปี ในระหว่างคืนวันนี้ในปีนี้และคืนวันนี้ในปีหน้า  ล้วนถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นริสกีที่แต่ละคนจะได้รับ หรือความดี ความชั่ว และแม้แต่ อะมั้ล อันหมายถึงจุดดับจุดอวสานของมัคลู๊กแต่ละหน่วย ต่างล้วนถูกกำหนดขึ้นในคืนวันนี้ทั้งสิ้น
 

คืนนิสฟูซ๊ะบานนี้ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า                  ซึ่งหมายถึง คืนที่ "พ้นไป"

กล่าวคือ คนที่เป็นศัตรูของอัลลอฮ์ก็จะพ้นไปจากสรวงสวรรค์ของพระองค์ ดัง อัล-กุรอ่าน กล่าวว่า
 
ซึ่งมีความว่า "พ้นไปจากอัลลอฮ์และรอซู้ลของพระองค์"
 
สำหรับคนดี คนที่มีความยำเกรง เขาก็จะพ้นไปจากขุมนรก และในคืนวันนี้ยังเป็นคืนที่อะมั้ลต่าง ๆ ของชาวโลกจะถูกมลาอีกะฮ์นำขึ้นไปเก็บไว้เพื่อรอวันตัดสิน 

มีรายงานจากท่านนะบี ศ้อลฯ ว่า 

เมื่อถึงคืนกลางเดือนซ๊ะอฺบาน พวกท่านจงทำอิบาดะฮ์ในคืนวันนั้น จงถือบวชกันในตอนกลางวันของวันนั้น  แท้จริงอัลลอฮ์ท่านจะลงมายังฟ้าดุนยาตั้งแต่ตะวันลับขอบฟ้าของวันนั้น
พลางกล่าวว่า
หากมีใครขออะไรฉันจะให้ หากมีใครขออภัย ฉันจะอภัยให้ หากมีใครขอริสกีฉันจะประทานให้ พระองค์ทรงพร้อมที่จะให้เช่นนี้จนถึงเวลา ญะฟัร (ดวงอาทิตย์ขึ้นของวันใหม่)

และท่านนะบี ศ้อลฯ กล่าวว่า 

ขอสาบานต่อผู้ที่ส่งฉันมาเป็นนะบีด้วยความสัจจริงว่า ใครซอละหวาตให้แก่ฉันในคืนวันนี้ เขาจะได้รับผลบุญเหมือนผลบุญของบรรดานบี บรรดารอซู้ล ตลอดจนบรรดามลาอีกะฮ์และมนุษย์ทั้งมวล

และมีรายงานจาก อะบีบัศริน บิน สะอี๊ด จากท่านศาสดา ศ้อลฯ ว่า 

เมื่อถึง คืนที่สิบสามของเดือนซ๊ะอฺบาน ญิบรีลได้มาหาฉันและกล่าวแก่ฉันว่า
 
มูฮัมมัดเอ๋ย จงลุกขึ้นเถิด ได้เวลา ตะฮัจญุด แล้ว เพื่อท่านจะได้ขอในสิ่งที่ท่านต้องการอยากให้ได้กับประชากรของท่าน
 และท่านศาสดาก็ได้ลุกขึ้นทำ ตะฮัจญุด และเมื่อถึงเวลาฟะญัร ญิบรีลได้มาบอกกับท่านศาสดาว่า


โอ้ มูฮัมมัด อัลลอฮ์ท่านได้ให้อภัยหนึ่งในสามของประชากรของท่านแล้ว ท่านศาสดาถึงกับร้องไห้แล้วเอ่ยถามญิบรีลว่า  ญิบรีลจงบอกฉันว่า อีกสองในสามของประชากรของฉันเขาเป็นอย่างไร?  ญิบรีลตอบว่า  "ไม่รู้"

และเมื่อถึงคืนวันที่สอง  (หมายถึง  คืนวันที่สิบสี่ของเดือนซ๊ะบาน) ญิบรีลได้มาหาท่านศาสดาอีก แล้วได้พูดกับศาสดาว่า

โอ้ มูฮัมมัด จงลุกขึ้นมาทำตะฮัจญุด
แล้วศาสดาก็ได้ลุกขึ้นกระทำการ ตะฮัจญุด และเมื่อถึงเวลาฟะญัร ญีบรีลก็ได้มาบอกกับท่านศาสดาว่า


โอ้ มูฮัมมัด อัลลอฮ์ท่านได้ให้อภัยสองในสามของประชากรของท่าน ท่านศาสดาก็ยังร้องไห้อีก แล้วได้ถามญิบรีลถึงอีกหนึ่งในสามประชากรว่า เขาเป็นอย่างไร? ญีบรีลก็ตอบว่า "ไม่รู้"

แล้วเมื่อถึงคืน อัล-บะรออะฮ์  (คืนนิสฟูซ๊ะบาน) ญิบรีลได้มาบอกข่าวดีกับท่านศาสดาว่า
จงดีใจเถิด  อัลลอฮ์ได้ให้อภัยแก่ประชากรของท่านทั้งหมดแล้ว  ทั้งนี้หากเขาไม่ใช่เป็นผู้ที่ชิริกในสิ่งหนึ่งสิ่งใดต่อพระองค์


แล้วญิบรีลได้ใช้ให้ท่านศาสดาแหงนขึ้นดูฟากฟ้า เมื่อท่านศาสดาแหงนขึ้นไปดูก็พบว่า ประตูสวรรค์ทุกบานถูกเปิด เห็นมลาอีกะฮ์ทั้งหมดกำลังกราบสุหยูดอยู่ เพื่อขออภัยให้แก่ประชากรของศาสดามูฮัมมัด  โดยที่ประตูที่หนึ่งมีมลาอีกะฮ์กล่าวว่า 

ความว่า "สวรรค์ตูบาเป็นของผู้ที่รูกั๊วะในคืนวันนี้" 

และประตูที่สองมีมลาอีกะฮ์กล่าวว่า 

ความว่า "สวรรค์ตุบาเป็นของผู้ที่สุหยูดในคืนวันนี้" 

และประตูที่สามมีมลาอีกะฮ์กล่าวว่า 

ความว่า "สวรรค์ตุบาเป็นของผู้ที่ซิเกรในคืนวันนี้" 

และประตูที่สี่มีมลาอีกะฮ์กล่าวว่า

ความว่า "สวรรค์ตูบาเป็นของผู้ที่ขอต่อผู้อภิบาลของเขาในคืนวันนี้" 

และประตูที่ห้ามีมลาอีกะฮ์กล่าวว่า 

ความว่า "สวรรค์ตูบาเป็นของผู้ที่ร้องไห้เพราะมีความยำเกรงต่ออัลลอฮ์ในคืนวันนี้"

และประตูที่หกมีมลาอีกะฮ์กล่าวว่า 

ความว่า "สวรรค์ตูบาเป็นของผู้ที่ทำแต่ความดีในคืนวันนี้"

และประตูที่เจ็ดมีมลาอีกะฮ์กล่าวว่า 

ความว่า "สวรรค์ตูบาเป็นของผู้ที่อ่านอัล-กุรอ่านในคืนวันนี้

และมวลมลาอีกะฮ์เหล่านั้นได้เรียกร้องกันว่า หากมีใครขออะไรเขาจะได้รับ หากมีใครรับสารภาพจะได้รับการอภัย

ท่านศาสดา ศ้อลฯ กล่าวเสริมว่า 

ความว่า "ประตูเราะฮ์มัตทุกบานถูกเปิดออกให้แก่ประชากรของฉันตั้งแต่หัวค่ำจนถึงฟะญัรขึ้น" 

พระนางอาอีซะฮ์ ร่อดิยั้ลลอฮุอันฮา กล่าวว่า: 

ฉันนอนอยู่กับท่านศาสดา ศ้อลฯ  ฉันตกใจมากเมื่อตื่นขึ้นมากลางดึกไม่พบท่านศาสดา ศ้อลฯ ฉันจึงค้นหาด้วยหัวใจที่หึงหวง ฉันคิดว่าท่านคงไปอยู่กับภรรยาคนใดคนหนึ่งของท่านในคืนซึ่งเป็นสิทธิของฉัน ฉันจึงไปหาที่บ้านภรรยาทุกคนแต่ก็ไม่พบ ฉันจึงได้ไปที่บ้านของฟาตีมะฮ์ บุตรสาวของท่าน ฉันเคาะประตูบ้าน แล้วมีเสียงถามออกมาว่า ใครเคาะประตู ฉันตอบว่า ฉัน...อาอีซะฮ์ มาเพื่อถามหาท่านศาสดา ศ้อลฯ ว่าแล้วท่านหะซัน ท่านหุเซน อาลีย์และฟาตีมะฮ์ ก็ออกมาช่วยกันค้นหา ฉันถามพวกเขาว่า เราจะไปหากันที่ไหนฯ พวกเขากล่าวกันว่า ไปหาที่มัสยิด ว่าแล้วพวกเราก็ไปกันที่มัสยิด แต่ก็ไม่พบ

ท่านอาลีย์กล่าวว่า
ท่านศาสดาจะไม่ไปไหนนอกจากที่ กุโบรบะเกี๊ยะ
พวกเราจึงไปกันที่กุโบร เมื่อเราเข้าไปใกล้บริเวณกุโบร เราได้เห็นรัศมีประกายอยู่ในกุโบร


ท่านอาลีย์กล่าวว่า
รัศมีที่เห็นนั้นต้องเป็นรัศมีแห่งท่านศาสดาแน่ เมื่อเราเข้าไปใกล้เราก็พบว่าท่านกำลังสุหยูดพลางร้องไห้ โดยไม่รู้สึกเลยว่าพวกเราไปที่นั่น
ท่านได้กล่าวในขณะสุหยูดอยู่นั้นว่า
 
ความว่า "หากท่านลงโทษพวกเขา แท้จริงพวกเขาก็คือบ่าวของท่าน และหากท่านให้อภัยพวกเขา แท้จริงท่าน คือผู้ทรงอำนาจและทรงปรีชาญาณ"

เมื่อฟาตีมะฮ์เห็นดังนั้น จึงได้เอามือยกศรีษะของผู้เป็นบิดาให้เงยขึ้นจากพื้นดิน แล้วถามว่า โอ้ผู้เป็นบิดา อันใดเกิดขึ้นกับท่าน ศัตรูจู่โจมมาหรือวะฮีประทานมา

ท่านศาสดา ศ้อลฯ กล่าวว่า โอ้ฟาตีมะฮ์ มิใช่ศัตรูจู่โจมมา และก็มิใช่วะฮีประทานมา แต่คืนวันนี้เป็นคืน "อัล-บอรออะฮ์" ฉันจึงขอจากอัลลอฮ์ 

แล้วได้เรียกอาอีซะฮ์ว่า  โอ้อาอีซะฮ์ หากกิยามะฮ์เกิดขึ้นในขณะที่ฉันกำลังสุหยูด ในขณะที่ฉันกำลังขอจากผู้อภิบาลของฉัน  ฉันต้องได้รับความช่วยเหลือแน่ ๆ 

แล้วท่านศาสดาก็ได้กล่าวกับทุก ๆ คนว่า   "หากพวกท่านปรารถนาที่จะตามฉัน  พวกท่านจงทำการสุหยูดกัน  และจงช่วยฉันขอดุดาด้วย  และได้กล่าวเสริมว่า โอ้อาลีย์ ท่านจงสุหยูดและจงไปเชิญชวนให้ผู้ชายทั้งหลายทำการสุหยูด

และกล่าวกับฟาตีมะฮ์และอาอีซะฮ์ว่า โอ้ฟาตีมะฮ์ โอ้อาอีซะฮ์ จงสุหยูดและจงไปเชิญชวนให้เด็ก ๆ และผู้หญิงทั้งหลายทำการสุหยูด...แล้ว...ทุกคนก็ทำการสุหยูดด้วยน้ำตาจนไหลเจิ่งนอง โดยรอบบริเวณที่ทุกคนสุหยูด จวบจนกระทั่งได้เวลาละหมาดซุบห์ 

โอ้ท่านผู้ที่รับฟังหรืออ่านอยู่ในขณะนี้  พวกท่านควรต้องทำการสุหยูดมากกว่าท่านเหล่านี้ เพราะความผิดของท่านทั้งหลายมีมากกว่า ท่านเหล่านี้ร้องไห้เพื่อขออภัยจากอัลลอฮ์ให้แก่พวกท่านทั้งหลาย....ไม่เป็นการพึงควรกว่าหรือ? ที่พวกท่านทั้งหลายจะได้ร้องไห้ให้แก่ตัวของท่านทั้งหลายกันเองบ้าง

จากอัลดุลลอฮ์ บุตรอุมัร กล่าวว่า ห้าเวลาที่ดุอาจะไม่ถูกปฏิเสธ คือ 

            1. ขอในคืนวันศุกร์ 

            2. ขอในคืนวันที่สิบของเดือนมุฮัรรอม

            3. ขอในคืนนิสฟูซ๊ะบาน

            4. ขอในคืนอีดิ้ลฟิตรี่ 

            5. ขอในคืนอีดั้ลอัดฮา 

อัลลอฮ์ท่านได้ทรงทำให้บางเดือนประเสริฐกว่าอีกบางเดือน  บางวันประเสริฐกว่าอีก

บางวัน บางเวลาประเสริฐกว่าอีกบางเวลา  ดังที่ให้รอซู้ลบางท่านประเสริฐกว่าอีกบางท่าน  ประชากรบางประชากรประเสริฐกว่าอีกบางประชากร

ทั้งนี้ก็เพื่อให้แต่ละชีวิตจะได้แข่งขัน รีบเร่ง ในการที่จะให้เกียรติช่วงต่าง ๆ ที่มีความสำคัญ ดวงวิญญาณจะได้คะนึงหาอยากจะมีชีวิตอยู่ในจังหวะนั้น ๆ ส่วนผลบุญในความล้ำเลิศของบางอย่างบางประการ  มากกว่าอีกบางอย่างบางประการจะเป็นเช่นใดนั้น เป็นเอกสิทธิ์แห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า

ความว่า "ดังกล่าวนั้น เป็นความกรุณาของอัลลอฮ์ที่จะทรงมอบให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ อัลลอฮ์เป็นผู้ที่ทรงไว้ซึ่งความกรุณาอันยิ่งใหญ่"

ท่านอัล-กอซานีย์  ได้กล่าวไว้ใน ซัรห์อัตตาอิยะฮ์ ว่า 

ดังที่พระองค์ได้ให้ความล้ำเลิศกับบางเวลา ด้วยการให้เหตุการณ์สำคัญ ๆ เกิดขึ้นในเวลานั้น ด้วยการให้คนรักมาพบกัน มาเห็นกัน พระองค์ก็ได้ให้ความล้ำเลิศของบางอะมั้ล ดีกว่าอีกบางอะมั้ลด้วย ความประเสริฐ ความบริสุทธิ์ของเจตนา และเป้าหมายแห่งการกระทำที่ได้รับแรงผลักดันมาจากสิ่งที่ดีงาม นั่นคือ ความบริสุทธิ์ใจเพื่ออัลลอฮ์ ที่มิได้ปลอมปนกับเพื่อสิ่งอื่นนอกจากเพื่อพระองค์เท่านั้น

 
cr. อาจารย์อับดุลการีม (อรุณ)  วันแอเลาะ

 

กลับสู่  >>  คำสอนอิสลาม | การละหมาดตะหัจยุด

 
 
 
 

เกี่ยวกับด้วยรักและศรัทธา

แนะนำบทความ แนวความรู้อัลอิสลามเพื่อทุกท่าน ..เข้าใจ ..รัก และศรัทธา

 

Ads