ขับเคลื่อนโดย Blogger.
Tag: , , ,

การรักษาสัญญา การให้อภัย คุณค่าของความดี



 

คำสอนของอิสลาม (2)

 

การรักษาสัญญา การให้อภัย คุณค่าของความดี


ครั้งหนึ่ง มีชายหนุ่มสองคนได้จับลากตัวชายอาหรับเร่ร่อนจากทะเลทรายมาหาท่านอุมัร  เพื่อตัดสินลงโทษ ท่านอุมัรถามว่า เขาทำอะไรผิดหรือ
ชายหนุ่มทั้งสองตอบว่า เขาฆ่าบิดาของเราทั้งสอง 
ท่านอุมัรจึงถามชายผู้เป้นฆาตกรว่า ทำไมจึงฆ่าเขา และฆ่าอย่างไร
เขาจึงเล่าเหตุการ์ณทั้งหมดให้ท่านอุมัรฟังว่า ผู้ตายได้นำอูฐเข้ามาในที่ของเขา เขาจึงได้ขับไล่ผู้ตายและอูฐออกจากที่ของเขา แต่ผู้ตายไม่ยอมออก เขาจึงเอาก้อนหินขว้างไปโดนที่ศรีษะ ทำให้ผู้ตายได้เสียชีวิต

ท่านอุมัรจึงตัดสินให้ประหารชีวิตเขาทันที  แต่เขาได้กล่าวขอกับท่านอุมัรว่า เขายินดีรับโทษตาม
ความผิด แต่ขอให้เขาได้กลับไปหาร่ำลาครอบครัวลูก ๆ ที่ยังเล็ก ๆ และกำลังรออาหารจากเขาก่อนได้หรือไม่ เพราะครอบครัวของเขารอเขากลับบ้านอยู่และอาจจะอดตาย
ท่านอุมัรจึงถามทุกคนว่า ในที่นี้ใครจะรับประกันเขาได้บ้าง ทุกคนเงียบ ไม่มีใครที่จะรับประกันชายแปลกหน้าเผ่าเร่ร่อนอย่างเขาได้ ท่านอุมัรจึงให้พาเขาไปยังที่ประหาร ท่านอุมัรรู้สึกเป้นกังวลถึงครอบครัวของเขามาก เพราะการประหารเขา อาจเท่ากับประหารชีวิตครอบครัว ลูก ๆ เล็ก ๆ ของเขาด้วย

เมื่อถึงที่ประหารท่านอุมัรจึงถามบุตรชายทั้งสองของผู้ตายอีกครั้งว่าท่านทั้งสองคิดเช่นไร
บุตรชายทั้งสองก้ยังยืนยันที่ต้องการให้ประหารเขาเลย ท่านอุมัรจึงถามคนอื่น ๆ อีกว่า จะมีใครกล้าค้ำประกันให้เขากลับไปหาครอบครัวก่อนประหารไหม  ทุกคนเงียบยกเว้นผู้เฒ้าคนหนึ่งที่ชื่อ อบูซัรริน ซอฮาบะฮ์ผู้อาวุโสของรอซูลุ้ลลอฮ์ (ซล)

ท่านได้ลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า ฉันขอรับประกันเขาเอง ท่านอุมัรจึงถามว่า ท่านรู้จักเขาหรือ
อบูซัรริน กล่าวฉันไม่รู้จักเขา
ท่านรู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้างไหม ท่านอุมัรถาม
ท่านอบูซัรรินกล่าวว่า ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย
ท่านอุมัรจึงกล่าวว่าแล้วท่านกล้ารับประกันเขาหรือ
อบูซัรรินก้ยังยืนยันรัปประกันเขาเหมือนเดิม
ท่านอุมัรจึงให้เวลาเขาสามวันที่จะกลับไปหาครอบครัว และให้กลับมาก่อนดวงอาทิตย์ตกของวันที่สาม โดยมีอบูซัรรินเป็นผู้ค้ำประกันด้วยชีวิต

และสามวันหลังจากนั้น หลังละหมาดอัสริ ชายผู้นั้นก็ยังไม่กลับมา ท่านอุมัรมองท่านอบูซัรรินที่นั่งอยู่ข้างหน้าด้วยความกังวลใจเป็นที่สุด แต่ท่านอบูซัรรินกลับนั่งอย่างสงบนิ่ง และทุกคนต่างเฝ้ามองดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าด้วยหัวใจที่คิดว่าวันนี้ทำไมดวงอาทิตย์จึงเดินเร็ว

แต่ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ก็ปรากฏชายอาหรับเร่ร่อนผู้นั้นได้กลับมาทันตามสัญญา
ท่านอุมัรได้กล่าว อัลลอฮุอักบัร ๆ ด้วยเสียงอันดัง พร้อมการกล่าว อัลลอฮุอักบัร ของผู้ที่อยู่ในมัสยิดทั้งหมด 
หลังจากนั้นท่านอุมัรจึงถามเขาว่า ทำไมเจ้าจึงกลับมา
เขากล่าวตอบว่า ถ้าฉันไม่กลับมาฉันกลัวว่าผู้คนจะไม่รักษาสัญญากันอีก
แล้วท่านอุมัรจึงได้หันไปถามท่านอบูซัรรินว่า แล้วทำไมท่านจึงกล้ารับประกันให้เขา
ท่านอบูซัรรินได้กล่าวตอบว่า เพราะฉันกลัวความดีของผู้คนจะหายไป
ท่านอุมัรจึงได้หันไปถามบุตรชายทั้งสองของผู้ตายว่า แล้วท่านทั้งสองคิดว่าอย่างไร 
บุตรชายทั้งสองของผู้ถูกตายก็กล่าวว่า เราทั้งสองอภัยให้เขาแล้ว ด้วยความดีของเขา อย่าประหารเขาเลย
ท่านอุมัรจึงถามว่า ทำไมท่านทั้งสองจึงอภัยแก่เขา
บุตรทั้งสองของผู้ตายจึงกล่าวว่า เพราะเรากลัวว่าผู้คนจะไม่มีการให้อภัยกันอีก
เมื่อทั้งสองกล่าวตอบแก่ท่านอุมัรดังนั้นแล้ว เสียงกล่าว อัลลอฮุอักบัร ได้ดังกระฮึ่มไปทั่วมัสยิด พร้อมกับน้ำตาแห่งการให้อภัยซึ่งกันและกันบนใบหน้า และสองแก้มของคนทั้งมัสยิด อัลลอฮุอักบัร ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

อมีน ..ขออัลลอฮฺทรงโปรด แด่ผู้ที่ส่งบทความนี้มาเผยแพร่ด้วย..



cr. Thammasart Muslim Club

กลับสู่  >>  คำสอนของอิสลาม

เกี่ยวกับด้วยรักและศรัทธา

แนะนำบทความ แนวความรู้อัลอิสลามเพื่อทุกท่าน ..เข้าใจ ..รัก และศรัทธา

 

Ads